ค่านิยม 12 ประการ : ​ค้นหาหนังสือธรรมะ หน้า 65 / 162

5.4.4 อริยสัจ 4' อริยสัจ แปลว่า ความจริงอันประเสริฐหรือความจริงของพระอริยบุคคล เพราะ ผู้ใดรู้อริยสัจด้วยญาณ ผู้นั้นก็กลายเป็นผู้ประเสริฐหรือพระอริยบุคคลทันที อริยสัจจึงเป็นหัวใจ ของศาสนาพุทธเป็นความจร

อริยสัจหมายถึงความจริงอันประเสริฐของพระอริยบุคคล ซึ่งสำคัญต่อการเข้าใจธรรมชาติของชีวิต โดยมีหลักความทุกข์เป็นพื้นฐานที่แบ่งออกเป็น 2 ประเภทคือ สภาวทุกข์และปกิณกกทุกข์ อริยสัจ 4 เป็นการค้นพบที่สำคัญของ

ของตนหนักจนไม่มีทางแก้ มนุษย์ก็หมดหวัง 2. สมุทัย หรือ ทุกขสมุทัย แปลว่า สาเหตุที่ทำให้เกิดความทุกข์ พระพุทธเจ้า ทรงรู้แจ้งในสาเหตุที่ทำให้เกิดทุกข์ อันได้แก่ ตัณหา 3 ประการ ดังต่อไปนี้ 1) กามตัณหา คือ

บทความนี้พูดถึงแนวคิดของพระพุทธเจ้าที่กล่าวถึงสมุทัยซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดทุกข์ มีกามตัณหา, ภวตัณหา และวิภวตัณหาเป็น 3 ประการสำคัญ จากนั้นเน้นความสำคัญของนิโรธหรือการดับทุกข์ ที่เกิดจากการดับตัณหา

5.4.5 มรรคมีองค์ 8' 1. สัมมาทิฐิ : ความเห็นชอบ มีลักษณะเด่นๆ ดังนี้ 1) ความเข้าใจชัดว่าอะไรคือทุกข์ อะไรคือสาเหตุแห่งทุกข์ อะไรคือความดับทุกข์ และอะไรคือมรรควิธีหรือมรรคปฏิบัติที่จะนำไปสู่ความดับทุกข์

มรรคมีองค์ 8 ประกอบด้วย 1. สัมมาทิฐิ - ความเข้าใจทุกข์และแนวทางดับทุกข์ 2. สัมมาสังกัปปะ - ความคิดที่ชอบ 3. สัมมาวาจา - การพูดที่เหมาะสม 4. สัมมากัมมันตะ - การทำงานที่ถูกต้อง โดยมุ่งเน้นไปที่การไม่ทำร

“ความอดทนคือความอดกลั้นเป็นตบะอย่างยิ่ง พระพุทธเจ้าทั้งหลายกล่าวว่า พระนิพพานเป็นธรรมยอดเยี่ยม บุคคลผู้ทำร้ายผู้อื่น หาได้เป็นบรรพชิตไม่ ผู้เบียดเบียนผู้อื่น ก็ไม่ชื่อว่าเป็นสมณะ การไม่ทำบาปทั้งปวง กา

ความอดทนคือความอดกลั้นตามคำสอนของพระพุทธเจ้า ซึ่งระบุว่า พระนิพพานเป็นธรรมยอดเยี่ยม สอนให้ไม่ทำร้ายผู้อื่นและทำความดี วันวิสาขบูชาตรงกับวันคล้ายวันประสูติ วันตรัสรู้ และวันปรินิพพานของพระพุทธเจ้า จึงถ

เมื่อดื่มน้ำอมฤตแล้ว ชาวซิกข์ทุกคนจะต้องถือศีล 21 ข้อ เป็นศีลประจำชีวิตของ ศาสนิกชนทุกคน คือ ก. ข้อปฏิบัติ 1. ให้นับถือศาสดาทุกองค์เป็นบิดา และถือว่าตนเป็นบุตรของบิดา 2. ให้ถือว่าเมืองปาตลีบุตร (ปัตนะ

เมื่อดื่มน้ำอมฤต ชาวซิกข์จะต้องถือศีล 21 ข้อ ซึ่งรวมถึงการนับถือศาสดาเป็นบิดา การยกเลิกชั้นวรรณะ การบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ และการฝึกฝนร่างกาย การห้ามยังรวมถึงการไม่วิวาทระหว่างกัน ไม่พูดปด และไม่คบคนที่

ทั้งสองนี้แตกต่างกันอย่างแท้จริงในวิธีการที่จะแก้ไขปัญหาโลกปัญหาสังคมด้วยวิธีการของตนเอง พูดง่าย ๆ ขงจื้อหนักไปในทางโลก ต้องการอยู่ในโลก ส่วนเล่าจื๊อสอนหนักไปในทางธรรม ต้องการ ออกนอกโลก แม้จะแตกต่างกั

บทความนี้อธิบายถึงความแตกต่างระหว่างขงจื้อและเล่าจื้อในการเผชิญปัญหาสังคม สะท้อนถึงความมุ่งมั่นต่อความสันติสุขและวิธีการที่แตกต่างกัน ขงจื้อมุ่งอยู่ในโลก ขณะที่เล่าจื้อแสวงหาความสงบและความเรียบง่าย ทั

แนวคิด 1. ศาสนาขงจื้อ เกิดที่ประเทศจีน เมื่อประมาณ 8 ปี ก่อน พ.ศ. ศาสนานี้ตั้งชื่อตาม “ขงจื้อ” ผู้เป็นศาสดาสมัยที่ขงจื้อมีชีวิตอยู่ไม่ถือว่าคำสอนของขงจื๊อเป็นศาสนาจนเมื่อขงจื้อสิ้นชีวิตไปแล้ว ศิษย์และ

ศาสนาขงจื้อเกิดในจีนเมื่อประมาณ 8 ปี ก่อน พ.ศ. โดยตั้งชื่อจาก “ขงจื้อ” ซึ่งเป็นศาสดา ศาสนานี้มีคะแนนการยอมรับหลังจากการสิ้นชีวิตของขงจื้อ ศาสนาขงจื้อมีคัมภีร์แบ่งเป็น 2 ประเภท คือ เก็งและซูหลักคำสอนสำ

น่าจะเป็นสัญลักษณ์ที่สมบูรณ์กว่า นั่นก็คือ สิ่งที่เรียกในภาษาญี่ปุ่นว่า “ซานซูโน-ซิงกิ” อันได้แก่ สมบัติ 3 ประการ คือ 1) กระจก (ยตะ โน กาคามิ) 2) ดาบ (กูสะ นาคิ โนซึรุกิ) 3) รัตนมณี (ยาสะกะนิ โน มาคะ

บทความนี้อธิบายเกี่ยวกับสมบัติทั้งสามที่มีความสำคัญในศาสนาชินโต ได้แก่ กระจก (ยตะ โน กาคามิ) เป็นสัญลักษณ์แห่งปัญญา ดาบ (กูสะ นาคิ โนซึรุกิ) เป็นสัญลักษณ์แห่งความกล้าหาญ และ รัตนมณี (ยาสะกะนิ โน มาคะ

1. ยัสนะ เป็นหมวดที่ว่าด้วยพิธีกรรม การพลีกรรมบวงสรวงต่อพระเจ้าเป็นตอน เริ่มแรกที่แสดงว่าเทพเจ้ามีความสำคัญยิ่งกว่ามนุษย์ และแสดงว่าการพลีกรรมบวงสรวงต่อ เทพเจ้าเป็นข้อปฏิบัติของมนุษย์ที่มาก่อนข้อใด คั

คัมภีร์อเวสตะประกอบด้วยหมวดที่สำคัญหลายหมวด เช่น ยัสนะ, วิสเปร์ท, เวทีทัท, ยัษฎส์ และโขรท-อเสตะ ซึ่งใช้ในการพลีกรรมบวงสรวงและพิธีกรรมต่างๆ ของนักพรต นำเสนอคำสอนเกี่ยวกับคุณธรรม 6 ประการเพื่อการอยู่ร่ว

ชาวอียิปต์คนนั้นเสีย แล้วหนีออกจากกรุงอียิปต์ไปอยู่ที่เมืองมิเดียน (Midian) ในอาหรับ บวชเป็นพระและเปลี่ยนชื่อเป็น โฮบับ (Hobab) หรือ Jethro ต่อมาได้แต่งงานกับลูกสาว ของนักบวชที่เมืองนั้นหลังจากนั้นได้

ในเนื้อหานี้ กล่าวถึงการหลบหนีของโมเสสจากอียิปต์ไปยังเมืองมิเดียน และการกลายเป็นผู้นำชาวเฮบรู เขาเริ่มต้นการก่อสร้างสมาคมคนงาน และขออนุญาตให้ชาวเฮบรูออกจากอียิปต์ เมื่อได้รับอนุญาตจากพระเจ้า โมเสสได้แ

1. บทปฐมกาล (Genesis) 2. บทอพยพ (Exodus) 3. บทเลวีนิติ (Leviticus) 4. บทกันดารวิถี หรือ การนับจํานวนคนอิสราเอล (Numbers) 5. บทเฉลยธรรมบัญญัติ (Deuteronomy) ทั้ง 5 เล่มนี้เรียก เป็นตะตัวค์ (Pentateuch)

คัมภีร์ในศาสนายิวแบ่งออกเป็นสามส่วนหลัก ได้แก่ ตะตัวค์ (Pentateuch) ซึ่งรวมถึงบทปฐมกาลจนถึงบทบัญญัติของโมเสส เป็นพื้นฐานของกฎหมายที่สร้างความสงบสุขให้กับสังคมยิว ส่วนศาสดาประกาศก (Prophets) รวมเรื่องร

อารามาอิค 11.4 หลักคำสอนที่สำคัญ คำสอนที่สำคัญในศาสนายูดาห์พอแยกเป็นหัวข้อใหญ่ๆ ได้ดังนี้ พระบัญญัติ 10 ประการ จงนมัสการพระเจ้าองค์เดียว อย่าออกพระนามพระเจ้าโดยไม่สมเหตุ จงถือวันพระเจ้าเป็นวันศักดิ์สิ

หลักคำสอนในศาสนายูดาห์แบ่งออกเป็นหัวข้อใหญ่ โดยเฉพาะพระบัญญัติ 10 ประการที่สำคัญ ซึ่งรวมถึงการนมัสการพระเจ้าองค์เดียว การเคารพบิดามารดา และหลักการประพฤติปฏิบัติในสังคม เช่น หลีกเลี่ยงการฆ่าคน การผิดปร

น้ำเลิกท่วมแล้ว พระยะโฮวาห์ได้ตรัสกับโนอาห์ว่า เราจะตั้งพันธสัญญาของเราไว้กับพวกเจ้าว่า จะไม่ทำลายมนุษย์และสัตว์โดยบันดาลให้น้ำท่วมโลกอีก และจะไม่ให้มีน้ำมาท่วมทำลายโลก อีกต่อไปจึงทรงตั้งรุ้งไว้เหนือเ

น้ำเลิกท่วมแล้ว พระยะโฮวาห์ได้ตรัสกับโนอาห์ว่า จะไม่ทำลายมนุษย์และสัตว์โดยน้ำท่วมโลกอีก และได้ตั้งรุ้งไว้เป็นเครื่องหมายพันธสัญญา ชาวยิวเชื่อว่าโนอาห์เป็นบรรพบุรุษของอับราฮัม วิญญาณของคนตายจะคอยวันตัด

2. เทศกาลอพยพ (Passover) เทศกาลนี้เริ่มในวันที่ 15 ตามปฏิทินของพวกฮิบรู ประมาณเดือนนิซัน (Nisan) ซึ่งอยู่ ในราวเดือนมีนาคม ถึงเมษายน เทศกาลนี้มีทั้งหมด 8 วัน การจัดเทศกาลนี้เพื่อระลึกถึงการ ที่พวกฮิบร

ในศาสนายิวมีเทศกาลที่สำคัญหลายประการ ได้แก่ เทศกาลอพยพ (Passover) ซึ่งเริ่มในวันที่ 15 ของเดือนนิซัน เพื่อระลึกถึงการอพยพออกจากอียิปต์และความเป็นทาส, งานฉลองพืชผลครั้งแรก (Shavuot) ที่เฉลิมฉลองการเก็บ

พระสันตะปาปาเป็นประมุขสูงสุดของทั้ง 2 ฝ่าย และในที่สุดได้มีการแตกแยกออกเป็น 2 นิกาย ใหญ่ครั้งแรกคือ นิกายโรมันคาทอลิกฝ่ายตะวันตกมีศูนย์กลางที่กรุงโรม และนิกายออร์ธอ - ดอกซ์ฝ่ายตะวันออก มีศูนย์กลางที่ก

พระสันตะปาปาเป็นประมุขสูงสุดของคริสต์ศาสนา ซึ่งในที่สุดนำไปสู่การแตกแยกเป็น 2 นิกายหลักคือ โรมันคาทอลิกในฝ่ายตะวันตกและออร์ธอ ด็อกซ์ในฝ่ายตะวันออก หลังจากนั้นยังมีการแตกแยกต่อไปเป็นนิกายน้อยต่าง ๆ แต่

สำคัญของนิกายนี้แทบไม่แตกต่างจากนิกายโรมันคาทอลิก ลักษณะที่แตกต่างไปจากนิกาย โรมันคาทอลิกมีดังนี้ 1. ไม่ยอมรับอำนาจของสมเด็จพระสันตะปาปาที่นครรัฐวาติกัน แต่ละประเทศ มีประมุขทางศาสนาของตน 2. รูปแบบพิธี

เนื้อหาเกี่ยวกับนิกายศาสนาคริสต์ โดยเฉพาะความแตกต่างระหว่างนิกายออร์ธอดอกซ์และโรมันคาทอลิก เช่น ไม่ยอมรับอำนาจของสันตะปาปา และความยืดหยุ่นในพิธีกรรม นอกจากนี้ยังกล่าวถึงนิกายโปรเตสแตนต์ที่เกิดจากการคั

ก. พระคัมภีร์เก่า ได้รับการยอมรับนับถือว่าเป็นคัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์ร่วมกันทั้งชาวยิวและ ชาวคริสต์มีความจุประมาณ 3/4 ของคัมภีร์ไบเบิ้ลทั้งหมด ได้บันทึกไว้เป็นภาษาเฮบรูโบราณ และ ภายหลังได้แปลเป็นภาษาละติน

พระคัมภีร์เก่าเป็นคัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์สำหรับชาวยิวและชาวคริสต์ ประกอบด้วย 3 ตอนหลัก ได้แก่ เพนทาทุกที่เล่าถึงกฎเกณฑ์และการเริ่มต้นของชาวยิว, ศาสดาพยากรณ์ที่บันทึกคำทำนายและคำสอนต่างๆ, และตอนประวัติศาสต

จงอย่าเกลียดชังพี่น้องของเจ้าอยู่ในใจ แต่เจ้าจงตักเตือนเพื่อนบ้านของเจ้าเพื่อจะ ไม่ต้องรับโทษเพราะเขา เจ้าอย่าแค้นหรือผูกพยาบาทลูกหลานญาติพี่น้องของเจ้า แต่จงรัก เพื่อนบ้านเหมือนรักตนเอง ในพระคริสต์ธร

เนื้อหานี้นำเสนอคำสอนในพระคริสต์ธรรมใหม่เกี่ยวกับหลักความรักที่พระเยซูทรงยกขึ้นเป็นสัญลักษณ์ของความรักสูงสุดที่พระเจ้ามีต่อมนุษย์ พระเยซูทรงย้ำให้คนรักพระเจ้าด้วยสุดใจและรักเพื่อนบ้านเหมือนรักตนเอง กา

4. ศรัทธาว่าพระเยซูเป็นพระผู้ช่วยให้รอด 5. ศรัทธาในแผ่นดินสวรรค์หรืออาณาจักรของพระเจ้าที่กำลังจะมาถึง หลักความรักและหลักอาณาจักรของพระเจ้ามีความสัมพันธ์กัน กล่าวคือ มนุษย์จะ สามารถเข้าถึงอาณาจักรของพร

เนื้อหานี้พูดถึงความสำคัญของการศรัทธาในพระเยซูและอาณาจักรพระเจ้าที่กำลังจะมาถึง หลักการดำเนินชีวิตที่แทรกซึมเข้าไปในจิตใจ ทำให้มนุษย์สามารถเข้าถึงอาณาจักรของพระเจ้าได้ โดยใช้ความรักเป็นแนวทางในการตัดส

1. ผู้เป็นสุข หรือ บรมสุข 8 ประการ จากมัทธิวบทที่ 4 ข้อ 3-12 ที่ปรากฏในพระคริสตธรรมใหม่ 3 “บุคคลผู้ใด รู้สึกบกพร่องฝ่ายวิญญาณ ผู้นั้นเป็นสุข เพราะแผ่นดินสวรรค์ เป็นของเขา” 4 “บุคคลผู้ใดโศกเศร้า ผู้นั้

ในมัทธิวบทที่ 4 ข้อ 3-12 สอนเกี่ยวกับความสุขตามพระธรรมที่ให้กำลังใจแก่ผู้ที่รู้สึกบกพร่อง ทุกคนที่ยึดมั่นในพระธรรมจะได้รับการสนับสนุนจากพระเจ้าท่ามกลางปัญหาและความทุกข์ อย่างเช่น ผู้ที่หิวกระหายความชอ